เรียนรู้ไพ่เสือมังกร พร้อมวิธีการเล่นแบบเข้าใจง่าย

ไพ่เสือมังกรเป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการคาสิโนออนไลน์ เนื่องจากในแต่ละรอบการออกรางวัลใช้เวลาไวมาก เพียงไม่ถึง 25 วินาทีต่อรอบเท่านั้น คุณก็รู้ผลการลงเดิมพันและกวาดรางวัลกลับเข้ากระเป๋าได้แล้ว

เกมไพ่เสือมังกรยังมาพร้อมกับโต๊ะวางเดิมพันที่ดูเข้าใจวิธีเล่นได้ง่ายคล้ายกับบาคาร่า แถมเล่นผ่านระบบถ่ายทอดสดที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนนั่งเล่นอยู่ที่คาสิโนจริงอีกด้วย

ในบทความนี้มาทำความรู้จักกับเกมไพ่ออนไลน์ยอดนิยมอย่าง เสือมังกร ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร มีวิธีเล่นอย่างไร รวมถึงกติกาการเล่นที่จะช่วยให้คุณรู้จักตัวเกมให้มากยิ่งขึ้น

ทำความรู้จักกับเกมเสือมังกร

เกมเสือมังกร เป็นเกมไพ่ที่ได้รับการดัดแปลงจากการเล่นบาคาร่า โดยบาคาร่ามีวิธีการเล่นที่ลุ้นสนุกและให้ผลตอบแทนที่ดี แต่ก็ต้องใช้เวลาในแต่ละตาที่ค่อนข้างนาน จึงทำให้เกมไพ่เสือมังกร ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดระยะเวลาในการเล่นลง และใช้ไพ่ในการลุ้นเพียงฝ่ายละ 1 ใบเท่านั้น

สำหรับเกมเสือมังกรในแต่ละโต๊ะ จะใช้ไพ่ทั้งหมด 6-8 สำรับในการเล่น ที่ดีลเลอร์หรือคนแจกไพ่จะทำการแจกฝ่ายเสือ (Tiger) และมังกร (Dragon) เพียงฝ่ายละ 1 ใบเท่านั้น แล้วรอเวลานับถอยหลังก่อนที่จะเปิดไพ่ขึ้นมา เพื่อดูว่าฝ่ายไหนจะมีแต้มหน้าไพ่มากกว่ากัน

โดยคุณที่เป็นผู้เล่นจะเลือกได้ว่าจะแทงเดิมพันที่ฝ่ายเสือ (Tiger) หรือมังกร (Dragon) หรือเสมอกัน (Tie) ลงบนโต๊ะที่ตีช่องเอาไว้ ซึ่งไพ่ A จะมีค่าน้อยที่สุด และไพ่ 10, J, Q, K จะมีค่าสูงที่สุดในเกม

การนับแต้มของไพ่เสือมังกร

สำหรับไพ่เสือมังกร เป็นการต่อสู้แต้มหน้าไพ่ของฝ่ายเสือและมังกรด้วยไพ่เพียงใบเดียว ซึ่งไพ่แต่ละใบจะมีวิธีการนับเลขคล้ายกับกาารเล่นบาคาร่า โดยจะมีแต้มหน้าไพ่ตั้งแต่ 1-13

  • ไพ่ตัวเลข 2-10 ใช้แต้มตามหน้าไพ่
  • ไพ่ A มีแต้ม = 1 (มีค่าน้อยที่สุด)
  • ไพ่ J มีแต้ม = 11
  • ไพ่ Q มีแต้ม = 12
  • ไพ่ K มีแต้ม = 13 (มีค่ามากที่สุด)

กติกาการเล่นเสือมังกร

บนโต๊ะของการเล่นไพ่เสือมังกรจะใช้รูปแบบคล้ายกับบาคาร่า ที่จะตีช่องสำหรับการลงเดิมพันเอาได้ โดยแบ่งเป็น

เดิมพันฝ่ายมังกร 🐲

  • เดิมพันมังกร (Dragon) โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1
  • เดิมพันมังกร แต้มคู่ (Dragon Even) โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1
  • เดิมพันมังกร แต้มคี่ (Dragon Odd) โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1
  • เดิมพันมังกร แต้มสูง (Dragon Big) ได้แก่ 8, 9, 10, J, Q, K โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1
  • เดิมพันมังกร แต้มต่ำ (Dragon Small) ได้แก่ A, 2, 3, 4, 5, 6 โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1
  • เดิมพันมังกร หน้าดำ (Dragon Black) ที่เป็นโพธิ์ดำและดอกจิก โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1
  • เดิมพันมังกร หน้าแดง (Dragon Red) ที่เป็นโพธิ์แดงและข้าวหลามตัด โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1

เดิมพันฝ่ายเสือ 🐅

  • เดิมพันเสือ (Tiger) ว่าจะชนะ โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1
  • เดิมพันเสือ แต้มคู่ (Tiger Even) โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1
  • เดิมพันเสือ แต้มคี่ (Tiger Odd) โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1
  • เดิมพันเสือ แต้มสูง (Tiger Big) ได้แก่ 8, 9, 10, J, Q, K โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1
  • เดิมพันเสือ แต้มต่ำ (Tiger Small) ได้แก่ A, 2, 3, 4, 5, 6 โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1
  • เดิมพันเสือ หน้าดำ (Tiger Black) ที่เป็นโพธิ์ดำและดอกจิก โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1
  • เดิมพันเสือ หน้าแดง (Tiger Red) ที่เป็นโพธิ์แดงและข้าวหลามตัด โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 1:1

เดิมพันเสมอ

ซึ่งเป็นการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะมีแต้มเท่ากัน โดยมีอัตราการจ่ายรางวัลแบบ 8:1 ซึ่งจะมี อัตรารางวัลสูง แต่โอกาสเกิดขึ้นไม่บ่อยนักสำหรับไพ่เสือมังกร

แต้มที่ได้รับการยกเว้น

หน้าไพ่ที่เป็นเลข 7 จะไม่ถูกนับใน แต้มคี่ และแต้มสูง/ต่ำ ทั้งการเดิมพันของเสือและมังกร เช่น คุณเดิมพันที่เสือแต้มคี่ แล้วฝ่ายเสือเปิดออกมาได้เป็นเลข 7 ก็จะเสียเดิมพันไปเลย ส่วนการเดิมพันในช่องอื่นๆ เลข 7 ก็ยังใช้แทงได้ตามปกติ

*สำหรับอัตราการจ่ายในแต่ละเว็บที่ให้บริการอาจไม่เท่ากัน และบางอาจมีช่องให้เลือกเดิมพันแค่ เสือ มังกร และเสมอเท่านั้น ซึ่งคุณก็สามารถเลือกได้เองว่าชอบเล่นแบบไหนมากกว่ากัน และชอบความคุ้มค่ามากแค่ไหน

เสือมังกรมีวิธีเล่นยังไง

วิธีการเล่นไพ่เสือมังกร คุณสามารถเลือกเล่นได้ผ่านเว็บเสือมังกร หรือเว็บคาสิโนที่เปิดบริการพนันไพ่เสือมังกร ซึ่งเมื่อคุณสมัครใช้งานจนเข้าไปสู่ห้องเดิมพันไพ่เสือมังกรได้แล้ว คุณก็จะพบกับโต๊ะที่มีดีลเลอร์ออนไลน์อยู่ตรงกลาง (ผู้แจกไพ่และดำเนินเกม) พร้อมกับช่องสำหรับลงชิปเดิมพันและตารางสถิติไพ่ที่ผ่านมา

ขั้นตอนการแทงไพ่เสือมังกรในห้องออนไลน์

เมื่อเข้าสู่ห้องแทงไพ่เสือมังกรแล้ว คุณจะเลือกได้ว่าจะแทงเลยหรือนั่งดูไปก่อนเพื่อดูเค้าไพ่ก่อนก็ได้ 

1. คุณเลือกเลยว่าจะลงเดิมพันที่ช่องไหน และจำนวนเท่าไหร่ โดยกดเลือกชิปจำนวนที่ต้องการ เพื่อเลือกวางลงในช่องเสือ มังกร เสมอ หรือแบบอื่นๆ

2. ในแต่ละตาจะมีเวลานับถอยหลังอยู่ที่ประมาณ 25-50 วินาที ก่อนที่จะเปิดไพ่ ดังนั้นดูเวลานับถอยหลังให้ดี ถ้ามีเวลาเหลือน้อยแล้วยังตัดสินใจไม่ได้ ก็รอลงเดิมพันในรอบถัดไป เพราะเกมนี้ไม่ได้บังคับว่าต้องลงเดิมพันทุกรอบ

3. ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ฝ่ายเสือ และฝ่ายมังกร ฝ่ายละ 1 ใบ เมื่อเวลานับถอยหลังสิ้นสุด ไพ่จะถูกเปิดออก ซึ่งถ้าคุณวางเดิมพันได้ถูกช่องก็จะได้อัตรารางวัลไปตามที่กำหนด แต่ถ้าทายผิดก็จะเสียชิปเดิมพันนั้นไปเลย

สำหรับการแทงเดิมพันไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้ว แต่ถ้าหน้าไพ่เปิดออกมาทั้ง 2 ฝ่ายเกิดเสมอกันขึ้นมา เกมจะหักเงินเดิมพันของคุณแค่ครึ่งเดียว 

เช่น คุณเลือกวางเดิมพันฝ่ายมังกรที่ 500 บาท แต่หน้าไพ่เปิดมาเสมอกัน เกมก็จะหักเงินไป 250 บาท และคืนให้กับคุณ 250 บาท

เลือกแทงฝั่งไหนมีโอกาสชนะสูงกว่ากัน?

เกมไพ่เสือมังกรมีการคำนวณ RTP (Return to Player) หรือค่าสถิติการออกรางวัลว่าฝ่ายไหนมีโอกาสชนะมากกว่ากัน โดยแบ่งออกเป็น

  • ฝ่ายเสือ (Tiger) และมังกร (Dragon) มี RTP อยู่ที่ 96.27%
  • เสมอกัน (Tie) มี RTP อยู่ที่ 82.17% 
  • การเดิมพันอื่นๆ ได้แก่ คู่ คี่ ดำ แดง สูง ต่ำ มี RTP อยู่ที่ 92.31%

ดังนั้นพอจะสรุปได้ว่าโอกาสการชนะของการเดิมพันที่มังกร หรือเสือ มีโอกาสชนะรางวัลได้บ่อยที่สุด รองลงมาคู่เดิมพันรูปแบบต่างๆ และโอกาสการเสมอกันมีไม่บ่อยมาก

Leave a Reply

Your email address will not be published.